ทริปควนคานหลาว 90 บาท

วันเที่ยว ตรุษจีน 16 ก.พ. 2561
วันหยุดราชการ 5 จังหวัดชายแดนใต้ (สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี นราธิวาส)

ควนคานหลาว: ภูเขาใต้ มีทะเลหมอกสวย ๆ ได้ในฤดูร้อน อยู่ใกล้หาดใหญ่ไม่เกิน 20 กิโล

วิวระหว่างทาง ช่วงใกล้ถึงภู ควนคานหลาว

เดินทาง : วิ่งเส้นหลังมอ.หาดใหญ่ ถนนปุณณกัณฑ์ ไปประมาณ 7 กิโล เจอวัดทุ่งงายอยู่ขวามือ ถัดจากวัดมีสี่แยก (มีป้ายใหญ่ชี้บอกทางไปควนคานหลาว) ให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นนาหม่อม วิ่งไปประมาณ 3.8 กิโล 
จะเริ่มเห็นข้างทางมีให้บริการรับฝากรถสำหรับขึ้นควนคานหลาว สังเกตซอยเล็ก ๆ ขวามือ มีป้ายบอกไปควนคานหลาว ให้เลี้ยวเข้าไปมีสวนยางขนาบ วิ่งไปไม่เกินกิโล เจอโรงคั่วกาแฟอยู่ซ้ายมือเลี้ยวเข้าเอารถไปจอดได้ฟรี แต่ต้องลงมากินอาหารเช้าร้านเขา ร้านนี้มีให้บริการรถรับส่งขึ้นภู คนละ 150 บาท ขาเดียว 
(ขึ้นลง 300 บาท) นอกจากนี้ก็มีเจ้าของที่พักบนควนคานหลาวอีกมาก ที่ให้บริการรถรับส่งขึ้นภูด้วย เช่น คานหลาวฮิลล์ ภูคานหลาว...

ทริป : มี 2 แบบ

1. ขึ้นตอนเช้าตรู่

นั่งรถ หรือเดินขึ้น ถ้าเดินขึ้นแนะนำให้มาถึงตีนภูประมาณตีห้าครึ่ง เพราะเดินสบาย ๆ ใช้เวลาประมาณ 
1 ชั่วโมงครึ่ง(ระยะทาง 4 กิโล) ถึงยอดภู 7 โมงนิด ๆ ก็ยังเห็นทะเลหมอกอยู่ และเริ่มมีแสงถ่ายรูปได้สวย

2. ขึ้นตอนเย็น

ไปค้างคืนบนภู ชิว ๆ ดูดาว แล้วตื่นเช้ามาดูทะเลหมอก

ประสบการณ์เรา :  เนื่องจากเราพักอยู่ในหาดใหญ่และไม่เคยไปที่นี่ เลยเลือกไปตอนเช้าเพื่อดูก่อนว่าทะเลหมอกเยอะมั้ย ที่พักด้านบนเป็นยังไง ไว้ค่อยจัดอีกรอบแบบนอนดูดาวด้านบน รอบนี้สำรวจก่อน
ไปถึงตีนภูตีห้าห้าสิบ จอดรถที่โรงคั่วกาแฟ แล้วเดินไปขึ้นภู ช่วงแรก ๆ เป็นถนนคอนกรีตกว้าง ตัดผ่านสวนยางชาวบ้านแถวนั้น เห็นคนกรีดยางในสวนบ้าง ขับรถผ่านไปบ้าง อากาศเย็นสบาย สดชื่นมาก 
ช่วง 15 นาทีแรก ใช้ไฟฉายเล็ก ๆ ส่องทางเดิน หลังจากนั้นก็เริ่มสว่างแล้ว 2 กิโลแรก เนินไม่สูงมาก 
ไม่โหดเท่าไหร่ มีเหงื่อเล็ก ๆ เราใส่เสื้อยืด รองเท้าแตะนิ่ม ๆ ถือถุงผ้าเล็ก ๆ (ใส่เป๋าตังค์ กุญแจรถ) เหมือนไปจ่ายตลาดแถวบ้าน55 เจอใครก็ถามว่าอีกไกลมั้ย ทุกคนตอบเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นชาวสวน คนขับรถผ่าน "อีกไกลนะ" อืม...ชัดเจน คนใต้จริงใจทุกคน555 พอเข้าช่วงระยะทางครึ่งหลัง ถนนเป็นดินลูกรังสีน้ำตาลแดง ทางแคบรถวิ่งได้ 1 คัน เป็นทางเลียบหน้าผาบางช่วง เพราะฉะนั้นใครที่มีรถกระบะเครื่องแรง ขับรถแข็ง เก่ง รู้เส้นทาง เอารถขึ้นไปได้ แต่เราไม่แนะนำให้เอารถขึ้นไปเองถ้าไม่รู้เส้นทาง เพราะมีช่วงโค้งหน้าผา แคบ และมีรถวิ่งขึ้นลงทางเดียวสวนทางกัน ถ้าไม่รู้จังหวะและพื้นที่หลบเพื่อสวนทางกันจะอันตรายมาก พอเดินไปได้สักเกือบชั่วโมง จะเหลือช่วง 1 กิโลสุดท้าย อันนี้เส้นทางเป็นเนินขึ้นยาว ชันมาก ไม่มีที่ให้นั่งพัก โหดนิดนึง เหงื่อท่วมหน้าท่วมตัวทีเดียว ถ้าใครไม่ค่อยออกกำลังกายหรือไม่เคยเดินป่าขึ้นภู ไม่แนะนำให้เดินขึ้นที่นี่เพราะอาจเป็นลมได้ (นั่งรถดีกว่า)  แต่ถ้าใครมีความตั้งใจ
เดินไปเรื่อย ๆ เหนื่อยก็ยืนพัก หายใจลึก ๆ ก็น่าจะผ่านไปได้ เพราะช่วงนี้แหละจะมีจุดชมวิวย่อย ๆ ที่เห็นทะเลหมอกพร้อมดวงอาทิตย์ที่เริ่มโผล่ขึ้นมา ถ่ายออกมาเหมือนรูปวาดเลย สวยงามหายเหนื่อย...

ดวงอาทิตย์กับทะเลหมอก เหมือนรูปวาด ควนคานหลาว

บรรยากาศเส้นทางเดิน ควนคานหลาว

พอถึงด้านบน จะมีร้านขายเครื่องดื่ม กาแฟ...3-4 ร้าน มีที่พัก เป็นเต้นท์ บ้านไม้เล็ก ๆ 3-4 ที่ 
ระบบน้ำยังไม่ค่อยเรียบร้อย ห้องน้ำมีจำกัด(ผนังด้านติดป่าหน้าผา เปิดโล่ง) 
ร้านกาแฟใหญ่ ๆ บ้านพักใหญ่ ๆ สวยๆ อยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าอีกสัก 4 เดือน น่าจะมีอะไรเยอะกว่านี้ 
บนนี้จะมีจุดชมวิว ป้ายให้ถ่ายรูปหลายจุด เดินขึ้นเนินเล็กอีกสัก 2-3 เนิน เพื่อเก็บรูปทะเลหมอก กับวิวตึกเมืองหาดใหญ่ (เราเดินเล่นถ่ายรูป ไม่ซื้ออะไรกินเลย ไม่จ่ายสักบาท555)

เต้นท์ริมหน้าผาแบบ top view มีความสวย+เสียว ควนคานหลาว

วิวทะเลเมือง (ตึกเมืองหาดใหญ่) ควนคานหลาว
ทริปนี้โชคดีที่ขาลงเดินลงมาแป็บเดียว เจอรถกระบะของเพื่อนร่วมทางที่รู้จักกันตอนขาขึ้นภู พี่เขาชวนนั่งรถลงมาด้วยกันฟรี ๆ ไม่ต้องเหนื่อย55 บรรยากาศนั่งรถก็ชิวไปอีกแบบ รถมาส่งที่โรงคั่วกาแฟ
เราสั่งชุดอาหารเช้า (ขนมปังปิ้ง 2 แผ่น ไส้กรอก 4-5 ชิ้น ไข่ดาว 1 ) เขามีกาแฟเราให้คั่วเอง บดเอง 
ต้มเอง โดยเขาคอยแนะนำทุกขั้นตอน จนได้กาแฟหอมชื่นใจ เราสั่งชุดอาหารเช้า 3 จาน ชุดกาแฟคั่วสำหรับ 3 คน ขนมจีบ 1 จาน รวม 270 บาท ตกคนละ 90 บาทเอง

เป็นทริปใกล้บ้าน ได้ออกกำลังกายตอนเช้า เดินขึ้นเขา 4 กิโล เหงื่อท่วมตัว สูดอากาศสดชื่นยามเช้า 
ดูวิวธรรมชาติสวย ๆ ทะเลหมอก ทะเลเมือง(ตึก) แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ดวงกลมโต ด้วยงบ 90 บาท
ถูกและดี นี่แหละชีวิต...

* รูปถ่ายกับกล้องมือถือธรรมดา อาจไม่สวยเท่าบรรยากาศจริง*

3 ให้ 3 ไม่ 3 ทำ

3 คำถามเพื่อให้อภัย ปลดล็อคชีวิตได้ไปต่อ
3 สิ่งขัดขวาง ไม่ทำมันแล้วสิ่งดี ๆ จะเกิดขึ้นในชีวิต
3 สิ่งที่ทำแล้ว ทำให้สิ่งที่ต้องการเกิดขึ้นจริงในชีวิต

Cr. Prair Chatnarongdej


ให้อภัยแล้วใจจะโล่ง จนมีที่ว่างพอให้สิ่งดี ๆ เข้ามา



ให้อภัย

มี 3 คำถาม

1. "เราแค้นแล้ว เราได้อะไรอ่ะ" มีประโยชน์มั้ย...
2. "เราอยากมีความสุขมั้ย" ช่ายย...เราอยากมีความสุข
     เขา...คนที่ทำผิดพลาดกับเรา เขาก็อยากมีความสุข
     เพราะเขาก็มีสิทธิอยากมีความสุข ปล่อยเขาสิ...
     การที่เขามีความสุข ไม่ได้แปลว่าเรามีความสุขอย่างเขาไม่ได้
     ยินดีกับเขา เราก็มีความสุขอย่างเขาได้
     มองหาข้อดีของเขาให้เจอ ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ
3. "เราเป็นใคร" เราก็แค่มนุษย์ขี้เหม็นคนนึง ตัวเล็ก ๆ ในโลกใบนี้
     ลดอัตตาตัวเองลง เราเป็นอะไรก็ได้ การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ
     เขาเลิกกับเราไปมีคนใหม่ เราก็แค่เป็นแก้วน้ำที่เมื่อก่อนเขาเคยดื่มแล้วชอบ
     แต่ตอนนี้เขาดื่มแก้วนี้ต่อไปแล้วไม่ชอบ เลยเปลี่ยนแก้ว ก็แค่นั้น...

เมื่อปลดความทุกข์ออกจากใจ ให้อภัยแล้วใจจะเบาโล่ง
จนมีที่ว่างเพิ่มขึ้น มากพอให้เราใส่สิ่งดี ๆ เข้าไปแทนที่
เริ่มต้นโฟกัสเป้าหมายในชีวิต การงาน การเงิน ความรัก  ความมั่งคั่ง ใส่เข้าไปในใจ

ไม่ทำ

3 สิ่งที่ขัดขวาง ไม่ให้คุณได้ผลลัพธ์ในสิ่งที่ต้องการ

1. "พูดถึงแต่สิ่งที่ไม่ต้องการ" สิ่งที่ไม่ชอบ...ปัญหา...หนี้... พร้อมใส่อารมณ์
    แล้วจะได้อะไร ก็ได้ในสิ่งที่พูดไง เพราะฉะนั้นอยากได้อะไรให้พูดถึงแต่สิ่งนั้น เดี๋ยวมันก็มา
    
ทำ : พูดถึงแต่สิ่งที่เราต้องการเท่านั้น

2. "ไม่เอาจริงกับชีวิต" ไม่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า มีข้ออ้างข้อแก้ตัวคือล้อเล่นกับชีวิต

ทำ : ตัดสินใจ เลือกเลยจะเอาอะไรกับชีวิต 

"ไม่ได้ ไม่เลิก ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์อะไรไม่สน
ระหว่างเส้นทางเดินชีวิต เดินไปหาเป้าหมายอย่างมีความสุข พร้อมพลังงานมากมาย"

ไม่ใช่ถึงเป้าหมายแล้วค่อยมีความสุข มีวันนี้เลยจากจุดที่เป็นอยู่ตอนนี้ ต่อยอดไปเรื่อย ๆ ...
จนถึงเป้าหมาย ดีใจที่มีวันนี้เพื่อจะได้ทำต่อไป...

3.  "ไม่ตัดสินใจ" 
     เมื่อมีเป้าหมายแล้ว อะไรที่เขามาในชีวิตแล้วไม่ใช่ ตัดออกเลย เหลือเฉพาะที่ใช่ไว้   

ทำ : เจอแฟนเลิกไปแล้วมาขอคืนดี ตัดออกแล้วไม่ใช่ เลิก...จบคือจบ
       วันนี้ตัดสินใจเลยว่าอะไร ไม่เอา ตัดออก (ตัวท้อ ตัวเหี่ยว..) อะไรเอาไว้ ทำต่อไป (ตัวฮึกเหิม...)


ทำ

3 สิ่งที่ทำแล้ว ทำให้สิ่งที่ต้องการเกิดขึ้นจริงในชีวิต

1. "เอาจิตไปจับกับสิ่งที่ต้องการ ใส่พลังงานกับมัน แล้วสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริง"

จิตเรามีพลังงาน เราให้พลังงานกับสิ่งไหน สิ่งนั้นก็งอกเงย 
ถามใจดู ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตเราทุกวันนี้ เพราะเราเอาจิตไปจับกับอะไร

ทำ : เอาจิตไปจับที่เป้าหมาย "การคิดดี คิดบวก การพัฒนาตัวเอง การเงิน การงาน ความมั่งคั่ง
ความรักดี ๆ" ใส่พลังงานกับมัน ฝึกฝนเรื่อย ๆ จนเห็นภาพความสำเร็จเหล่านั้น... 
ประกอบกับเมื่อเรามีใจที่สูง ให้อภัยได้อย่างหมดจด ให้อภัยในความผิดพลาดของตัวเอง/คนอื่น
เราจะมีใจที่สูง ใหญ่และกว้าง เหมือนได้อยู่บนภูเขาสูงแล้วมองเห็นภาพแบบ top view 
ทำให้มองเห็นปัญหา/อุปสรรคเป็นแค่จุดเล็ก ๆ ขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นทุกโอกาส 
ว่ามันมีความเป็นไปได้ มองเห็นความมั่งคั่ง

2. "รู้สึกว่า สิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการ เป็นของเราอยู่แล้ว"

ความสำเร็จ ความรักดี ๆ เงินทองความมั่งคั่ง ให้รู้สึกว่าเป็นของเราอยู่แล้ว ใจมันจะเต็ม
ไม่ต้องตะเกียกตะกาย ดิ้นร้น แร้นแค้น... มันให้ความรู้สึกต่างกัน
เราเชื่อมั่นว่าอะไรก็ตามที่เราต้องการ มันเป็นของเราอยู่แล้ว รู้สึกได้โดยใช้พื้นฐานของ 
"ความเชื่อใจในตัวเอง" จะทำยังไงให้เกิดขึ้น... 
ทำได้โดยย้อนกลับไปมอง "ความดี..ความยืนหยัด..ความต่อเนื่องในการพัฒนาตนเอง" 
ที่เราเคยทำไว้
ความดี เราเคยทำสิ่งดี ๆ กับพ่อแม่ เพื่อน คนรัก มามากมาย แล้วทำไมเราจะไม่คู่ควรกับสิ่งดี ๆ ล่ะ
ความยืนหยัด ไม่ว่าใครจะทำร้ายเรา นินทา ใส่ร้าย โกงเรา ทำให้เราท้อแท้ เสียใจ ร้องไห้ ล้มลงไปแล้วยืนหยัดขึ้นมาใหม่ จะล้มอีกสักกี่ครั้งเราก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้ 
เรามีความกล้าหาญยืนหยัดขนาดนี้ แล้วทำไมล่ะ เราจะไม่คู่ควรกับสิ่งดีงาม ความสำเร็จ เงินทอง 
ความรักดี ๆ ความสุขแบบลึกซึ้ง...
ความต่อเนื่องในการพัฒนาตนเอง เราเลือกเสพสิ่งดี ๆ ไม่หยุดเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ ต่อเนื่อง
ถ้าทำมาขนาดนี้แล้วทำไมจะไม่รู้สึกล่ะ ว่าสิ่งดี ๆ จะเป็นของเรา

3. "การปล่อยวาง"

หลายคนทำได้แค่ข้อ 1,2 แต่ไม่ผ่านข้อนี้ สิ่งที่ต้องการเลยไม่เกิด
ความเครียด ความกังวล ว่าเมื่อไหร่จะเข้ามา (เงินทอง, ความรัก...) มันฟ้องว่าเราไม่เชื่อใจตัวเอง
ไม่เชื่อว่าสิ่งดีงาม ความสำเร็จเราคู่ควร จริง ๆ มันเป็นของเราอยู่แล้ว
ปล่อยวางไม่เป็น ถ้าเรายังไม่เชื่อว่าเราคู่ควร แล้วโลกจะเชื่อแล้วส่งสิ่งดี ๆ มาให้เราหรอ...
ทำ : ฝึกใจไปจับสิ่งดีงาม รู้สึกว่าเราคู่ควร เราได้รับมันแล้ว ปล่อยวางให้เป็น สิ่งดีงามเกิดขึ้นแล้วในใจเรา แล้วมันก็จะเกิดขึ้นในโลกจริง ๆ ไม่ต้องรอ...แค่เชื่อใจตัวเอง...


ให้อภัยทุกความผิดพลาดของตนเอง/ผู้อื่นที่เกิดขึ้นไปแล้ว
โฟกัสสิ่งดีงามที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับชีวิต เรียนรู้ในวิธีการ ฝึกฝนและทำอย่างต่อเนื่อง 
โดยรู้สึกถึงความสำเร็จว่ามันเกิดขึ้นแล้ว มีความสุขในทุกวันซาบซึ้งกับความสำเร็จ
ชิว...ปล่อยวางผลลัพธ์ แล้วสิ่งดีงามที่ต้องการจะเกิดขึ้นจริงในชีวิต เพราะเราคู่ควร...